วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การดีดอูคูเลเล่แบบเบื้องต้น

  การฝีกดีดนั้นให้เราเริ่มจากการดีดลงก่อน เพราะมันจะทำให้เราคุ้ยเคยระหว่างนิ้วกับสาย ส่วนนิ้วที่ใช้ดีดสามารถให้ได้ทั้งนิ้วโป้งและนิ้วชี้

      การดีดสายด้วยนิ้วชี้ให้เรากำมือข้างที่ดีดหลวมๆแล้วยื่นนิ้วชี้ออกมาพอประมาณ นิ้วที่สัมผัสกับสายจะอยู่บริเวณเนื้อส่วนปลายเล็บ เวาเราดีดลงให้ใช้แค่ข้อมือหมุนลงไปเท่านั้น ไม่ต้องสะบัดแขน หากใช้นิ้วโป้งดีดส่วนที่สัมผัสกับสายจะอยู่บริเวณด้านข้างของนิ้วโป้ง เวลาดีดหมุนเฉพาะข้อมือเหมือนกัน

        เมื่อเริ่มที่จะดีดคล่องแล้วเราอาจจะเพิ่มการนับจังหวะ 1 2 3 4 ไปพร้อมกับการดีดลงแต่ละครั้ง และอาจเริ่มจับคอร์ดโดยเริ่มจากคอร์ดที่ง่ายๆ ก่อนเช่นคอร์ด C ที่จับเพียงสายที่ 1 เฟร็ตที่ 3 เพียงสายเดียว โดยใช้นิ้วนางกดสาย(ตอนกดสายควรกดให้แน่นและให้อยู่ในเฟร็ตของมัน) การฝึกดีดลงนั้นพยายามดีดให้สายทุกเส้น และพอดีดไปเรื่อยๆจนเริ่มที่จะคล่องแล้วให้เราเพิ่มความเร็วในการนับจังหวะและการดีด การฝึกแบบนี้จะช่วยให้เรามีทักษะในการนับจังหวะไปในตัวแถมยังสร้างความคุ้นเคยเวลาที่เราอยากใส่เนื้อร้องลงไปพร้อมการดีดสายไปด้วย แค่นี้เราก็สามารถเล่นเป็นเพลงได่แล้ว

วิธีดีดสายขึ้น/ลง 

   การดีดสายขึ้นลงจะมีการดีด 2 แบบหลักๆที่เราจะเห็นบ่อยแต่ละแบบจะให้เสียงต่างกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความถนัดของผู้เล่นว่าจะถนัดแบบไหนหรือต้องการให้เสียงออกมาเป็นอย่างไร

1.ใช้นิ้วโป้งดีดขึ้น/ลง
    วิธีดีดนั้นให้เราดีสายลงไปก่อนแล้วหยุดอยู่กับที่เมื่อต้องการดีดขึ้นให้ใช้นิ้วกวาดตั้งแต่สายล่างขึ้นไปยังสายบนสุด ส่วนของนิ้วที่สัมผัสกับสายนั้นจะอยู่บริเวณปลายเล็บของหัวแม่มือด้านที่หันเข้าลำตัว เริ่มแรกให้เราดีดขึ้นลงช้าๆ ทำให้เกิดความคุ้นเคยซะก่อน  ส่วนที่เราเคลื่อนไหวในการดีดคือส่วนข้อมือเท่านั้นนะ การดีดโดยใช้หัวแม่มือนั้นจะทำให้เกิดเสียงที่นุ่มนวล

2.ใช้นิ้วชี้ดีดสายขึ้น/ลง
     วิธีดีดให้เริ่มจากการดีดลงและหยุดเพื่อดูตำแน่งที่สิ้นสุดของนิ้ว พอจะดีดขึ้นก็ให้กวาดสายตั้งแต่ล่างขึ้นบน ดีดขึ้น/ลงช้าๆ และพอเมื่อเริ่มชำนาญก็ลองดีดเร็วขึ้น เพื่อเราเกิดความชินในการดีด  และส่วนที่เราก็ใช้แค่ที่ข้อมือเท่านั้น การดีดโดยใช้นิ้วชี้นั้นจะให้เสียงที่หนักแน่น เหมาะกับการสตัมเป็นหลัก


วิธีถืออูคูเลเล่

       ก่อนจะเล่นเรามาเรียนรู้วิธีถืออูคูเลเล่กันก่อนเลยย ใช้มือซ้ายจับบริเวณของคออูคูเลเล่โดยวางคอไว้บนฝ่ามือ  ใช้แขนขวาของเราหนีบอูคูเลเล่ไว้ที่ข้อพับ ด้านหลังของอูคูเลเล่จะแนบกับลำตัวของเรา จากให้ให้ใช้มือซ้ายที่จับคอของอูคูเลเล่อยู่ยกขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อง่ายต่อการดีดและจับคอร์ด

ตำแหน่งดีดสาย
      สำหรับตำแหน่งที่ใช้ดีดนั้นจะอยู่ตรงรอยต่อระหว่างคอกับลำตัว จะทำให้เราเล่นได้อย่างสะดวก เพราะเมื่อเราวางแขนแนบไปกับอูคูเลเ่ล่แล้วตำแน่งมือของเราจะไปอยู่ตรงนั้นพอดี และอีกตำแหน่งที่นิยมดีดก็คือบริเวณโพรงเสียง จะดีดตรงไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความต้องการของโทนเสียง


วิธีตั้งสาย
       ก่อนจะเล่นเราก็ต้องมาหัดตั้งสายกันก่อน ถึงแม้ตอนซื้อมาครั้งแรกทางร้านอาจจะตั้งสายมาให้เราแ้ล้วแต่เมื่อดีดเล่นไปซักพักลูกบิดยึดสายนั้น จะค่อยๆคลายตัวออกทำให้เกิดเสียงเพี้ยน ดังนั้นเราจึงต้องคอยฟังเสียงมันอยู่ตลอด สำหรับวิธีตั้งสายนั้นมีหลายแบบไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องตั้งสาย ใช้วิธีเทียบเสียงกับเปียโน หรืออื่นๆอีกมากมาย แต่จะแนะนำวิธีที่ง่ายที่สุดคือ วิธีตั้งสายโดยใช้เครื่องตั้งสาย แต่ก่อนอื่น เราต้องรู้ก่อนว่าโน๊ตประสายแต่สายมีอะไรบ้าง ดังนี้
                                                                         โน๊ตประจำสาย 
                                                              เส้นที่ 1 โน๊ต A หรือเสียง ลา
                                                              เส้นที่ 2 โน๊ต E หรือเสียง มี
                                                              เส้นที่ 3 โน๊ต C หรือเสียงโด
                                                              เส้นที่ 4 โน๊ต G หรือเสียง ซอล 

วิธีใช้เครื่องตั้งสาย
1.นำเครื่องตั้งสายแบบดิจิตอลหนีบไว้บริเวณส่วนหัวของอูคูเลเล่
2.ตั้งสายเส้นไหนก่อนก็ได้แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะดีดจากเส้นที่ 4 ลงมาโดยดีดสายเปล่าไม่ต้องจับคอร์ดใดๆทั้งสิ้น แล้วสังเกตุดูที่หน้าจอเครื่องตั้งเสียง จะต้องแสดงเป็น ตัวG และถ้าตั้งตรงบนหน้าจอจะเปลี่ยนสี 
3.ถ้ายังไม่ตรงให้บิดที่ลูกบิดไปเรื่อยและดีดไปพร้อมๆกันด้วย ถ้าเข็มชี้เลยขีดกลางแสดงว่าเราบิดมากเกินไปให้บิดกลับ แต่ถ้าเข็มชี้ยังไม่ถึงขีดตรงกลางก็ให้บิกไปเรื่อยๆเพราะแสดงว่าเรายังบิดไม่ตรงกับเสียงของโน๊ตตัวนั้น 

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ก่อนเล่นๆ มาทำความรู้จักกันหน่อยย

อูคูเลเล่(Ukulele)หรือเรียกสั้นๆว่า อู๊ค(Uke) เป็นเครื่องดนตรีที่มีแหล่งกำเนิดจาก เกาะฮาวาย เป็นเครื่องดนตรีชนิดเดียวกันกับกีต้าร์ แต่จะต่างจากกีต้าร์นิดหน่อยตรงที่มีเพียง 4 สายและสายยังทำจากสายเอ็น หรือไนลอน ทำให้เวลาที่เราเล่นจะไม่เจ็บนิ้ว ที่สำคัญมันยังเล่นง่ายกว่ากีต้าร์ด้วย!!

การหัดเล่นอูคูเลเล่ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรหรอก เพียงแค่เราให้ความสำคัญกับมันนิดหน่อย พยายามซักเล็กน้อย ไม่นานก็เป็นแล้ววว สำหรับคนที่เพิ่งจะหัดเล่น ก็ควรจะรู้ซักหน่อยว่าอูคูเลเล่นั้นมีกี่ประเภท เหมาะกับเล่นแบบไหน

อูคูเลเล่นั้นจะถูกแบ่งประเภท ตามขนาดและระดับเสียงของมันน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ขนาด คือ


โซปราโน (soprano)


         เป็นอูคูเลเล่ขนาดดั้งเดิมและมีขนาดเล็กที่สุด มีความยาวประมาณ 21 นิ้ว เสียงออกโทนแหลม เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเล่นคอร์ดพื้นฐานง่ายๆ และยังเหมาะกับเด็กเล็กอีกด้วย เนื่องจากเป็นอูคูเลเล่ที่มีขนาดเล็ก

คอนเสิร์ต (concert)






      อูคูเลเล่ตัวนี้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าโซปราโนนิดหน่อย มีความยาวประมาณ 23 นิ้ว เสียงออกโทนแหลมทุ้ม จำนวนเฟร็ตจะมากขึ้นจากโซปราโน ทำให้เล่นได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการเล่นแบบ Finger style

เทเนอร์ (tenor)
   


 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยจากไซส์คอนเสิร์ต มีขนาดใกล้เคียงกับกีต้าร์ไซส์เล็ก มีความยาวประมาณ 26 นิ้ว โดยให้เสียงทุ้ม กลาง แหลม ด้วยความที่มีขนาดใหญ่จึงเหมาะแก่การนำไปแนวเพลงต่างๆได้หลากหลาย

บาริโทน (Baritone)




   

เป็นอูคูเลเล่ที่ขนาดใหญ่ที่สุด มึความยาวประมาณ 30 นิ้ว บาริโทนเป็นอูคูเลเล่ที่ไม่ได้รับความนิยมนักเนื่องจากมีความแตกต่างจากอูคูเลเล่ขนาดอื่นๆมากเกินไป ไม่ว่าเป็นเสียง หรือวิธีตั้งสายก็ตาม